สถิติเว็บพระ |
เข้าดูแล้ว : 8846187 คน |
ร้านค้าทั้งหมด : 10 ร้าน |
สมาชิกทั้งหมด : 5588 คน |
พระเครื่องทั้งหมด :
247 องค์ |
กระดานประมูล :
141 กระดาน |
ทางลัดไป ศึกษา / วัตถุมงคล |
|
ทางลัดไป กระดานประมูล |
|
ทางลัดไป ซื้อขายพระเครื่อง |
หลวงพ่อสาคร
ประวัติหลวงพ่อสาคร
หลวงพ่อสาคร หรือพระครูมนูญธรรมวัตร มีนามเดิมว่า สาคร ไพสาลี เกิดในกระกูลชาวไร่ชาวนา เมื่อวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑ โยมบิดาชื่อ นายกุ โยมมารดาชื่อนางนิด หลวงพ่อสาครเกิดที่บ้านท้ายทุ่ง หมู่สอง ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย (บ้านท้ายทุ่งแห่งนี้เป็นสถานที่เดียวกับบ้านเกิดของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) หลวงพ่อสาคร มีพี่น้องทั้งหมด๒คนคือ
ในตอนเด็กหลวงพ่อสาคร ได้เข้าศึกษาเบื้องต้นในชั้นประถมปีที่ ๑ เมื่ออายุได้ ๕ ปีที่โรงเรียนวัดหนองกรับ จนจบชั้นประถมปีที่ ๔ จึงได้ออกมาช่วยโยมบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา และเมื่อมีเวลาว่างก็จะออกเดินทางไปบ้านละหารไร่ เพื่อศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับโยมหล่อและโยมทัต ซึ่งทั้งสองถือว่าเป็นผู้เรืองวิชาอาคมในสมัยนั้น และเข้าปฏิบัติหลวงปู่ทิมอยู่เป็นนิจซึ่งนับว่าเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่หลวงปู่ให้ความเมตตาเรียกใช้อยู่เสมอ ด้วยนิสัยและความสนใจด้านไสยศาสตร์มาแต่เด็กและโตขึ้นจึงเป็นคนหนุ่มที่มีวิชาอาคมติดตัวแต่ก็ได้ใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาไปทำร้ายใครกลับมีแต่ช่วยเหลือเพื่อนๆรุ่นเดียวกันมาตลอด
เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี โยมมารดาและญาติพี่น้องจึงได้ร่วมกันจัดพิธีอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุที่วัดหนองกรับเมื่อวันพุธที่ ๔มิถุนายน ๒๕๐๑ โดยมีพระครูจันทโรทัย(หลวงพ่อดิ่ง)เป็นพระอุปัชฌายะเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเคียง วัดไผ่ล้อมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่ามนูญโญ
เมื่ออุปสมบทแล้วได้เดินทางไปจำพรรษาที่ วัดละหารไร่ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ทิมเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมจากหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่อย่างจริงจัง จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆจากหลวงปู่ทิมจนหมดสิ้นโดยมิได้ปิดบังแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเรียนได้กระจ่างชัดรู้จริง สามารถปฏิบัติได้เมื่อมีความเชี่ยวชาญในพระคาถาต่างๆ ที่เรียนแล้วด้วยใจรักในด้านนี้จึงได้เสาะแสวงหาศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่ ซึ่งหลวงพ่อเพ่งรูปนี้เดิมเป็นมหาดเล็กในเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ฯ จึงได้ศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีวิชาด้านคงกระพันเป็นเยี่ยมเขียนอักขระลงบนแผ่น ตะกั่วเพียงตัวเดียวให้คนทดลองยิงก็ยิงไม่ออกเมื่อ หลวงพ่อสาคร ได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อเพ่งเป็นอย่างดีแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ทิมให้ไปศึกษาวิชาจาก หลวงปู่หิน วัดหนองสนม ซึ่งหลวงพ่อสาครก็ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หินถ่ายทอดวิชาให้เป็นอย่างดีหลังจากศึกษาวิชาอาคมจากหลวงปู่หินแล้ว หลวงพ่อสาครก็เดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก หลวงพ่อสาครก็ได้ศึกษาจนกระทั่งจบวิชาความรู้ต่างๆ ด้วยนิสัยใฝ่รู้หมั่นศึกษา
หลวงพ่อสาคร ยังได้ศึกษากับพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านไสยเวทย์ต่างๆอีกหลายท่านทั้งพระภิกษุและฆราวาส ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ พระครูเกลี้ยงธรรมถีโยเจ้าอาวาส ลำดับที่ ๙ วัดหนองกรับได้มรณภาพลง ทายกทายิกาชาวบ้านหนองกรับได้เดินทางไปหาหลวงปู่ทิม ที่วัดละหารไร่เพื่ออาราธนาหลวงพ่อสาคร ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ หลวงปู่ทิมได้อนุญาต หลวงพ่อสาครจึงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงแม้ว่า หลวงพ่อสาคร ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับก็มิได้ทอดทิ้งหลวงปู่ทิม ผู้เป็นอาจารย์ยังคงเดินทางไปกราบนมัสการดูแลหลวงปู่อยู่เสมอจนกระทั่งหลวงปู่ทิมได้มรณภาพ ลงในปี ๒๕๑๘ หลวงพ่อสาคร ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการจัดบำเพ็ญกุศลศพหลวงปู่ทิม อย่างเต็มที่สมกับที่เป็นศิษย์ก้นกุฏิอย่างแท้จริงจนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาอื่นๆของหลวงปู่ทิมกล่าวยกย่องชมเชยหลวงพ่อสาครกันทั่ว หลวงพ่อสาครนอกจากจะสนใจศึกษาวิชาอาคมต่างๆแล้ว ท่านก็มิได้ทอดทิ้งในด้านการศึกษาพระธรรมวินัย และเมื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า ๒๐๐ ปีและเคยถูกไฟไหม้เผากุฏิเสนาสงฆ์จนวอดวาย ท่านก็มิได้ดูดายเมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสก็ได้บูรณะและสร้างเสนาสนะใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ภิกษุสงฆ์สามเณรและพุทธศาสนิกชนได้ใช้ปฏิบัติศาสนกิจต่อไปด้วย
วัตถุมงคล
วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสาครได้สร้างไว้ มีหลายรุ่น อาทิ พระกริ่ง พระผง พระปิดตา เหรียญ และตะกรุด ซึ่งทุกอย่างที่สร้างออกมาล้วนได้รับความนิยมจากศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย จนมีผู้ทำบุญบูชาหมดไปจากวัดในช่วงเวลาไม่นานนัก
โดยประเด็นสำคัญของการปลุกเสกวัตถุมงคลนี้ หลวงพ่อบอกว่าในการปลุกเสกวัตถุมงคลแต่ละอย่าง นอกจากจะเสกให้ครอบคลุมทุกอย่างในเบื้องต้นแล้ว ยังต้องเสกสำทับเสริมด้วยวิชาเฉพาะด้าน เพื่อให้สอดคล้องไปกับรูปแบบ และบังเกิดผลไปตามเจตนารมณ์ที่สร้าง เช่น พระขุนแผนพรายกุมาร ที่เน้นด้านเมตตามหานิยม หรือเครื่องรางหนุมาน ที่เด่นด้านคุ้มครองและคงกระพัน เงื่อนไขของการเสกที่หลวงปู่ทิมได้สอนไว้ และหลวงพ่อสาครถือว่าเป็นคติธรรมที่ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์พึงระลึกไว้ตลอดเวลา คือทำดีให้เขาเกรง ดีกว่าเป็นนักเลงให้เขากลัว แต่ถึงกระนั้นก็ตามวัตถุมงคลของหลวงพ่อสาครก็ยังเป็นที่ต้องการของนักสะสม รวมถึงลูกศิษย์ลูกหาอยู่มากมาย เพราะนอกจากคำสอนที่ดีของหลวงพ่อแล้ว เรื่องของคุณวิเศษของวัตถุมงคลของหลวงพ่อก็ยังเป็นที่ประจักษ์อีกด้วย
หลวงพ่อสาครได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘ มีด้วยกันสองพิมพ์ พิมพ์แรกเป็นสมเด็จรัศมีมีเนื้อผงใบลานเก่าสีดำหลวงพ่อได้นำใส่บาตรแล้วเผาไฟ ทำให้มีเนื้อแกร่งและอีกพิมพ์หนึ่งเป็นรูปปั้นหลวงปู่ทิมเนื้อผงใบลานสีดำเนื้อเดียวกับสมเด็จพิมพ์รัศมี หลวงพ่อสาครได้นำออกมาแจกแก่ญาติโยมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๐ ในงานทอดผ้าป่า พระชุดนี้ได้ก่ออภินิหารอย่างมากมาย ช่วยคุ้มครองชีวิตแก่ผู้นำติดตัวมาแล้วหลายราย
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ หลวงพ่อสาคร ได้นำผงปัถมัง ผงอิทธิเจ ที่ท่านเขียนเลขยันต์อักขระต่างๆ ผงของของหลวงปู่ทิม ผงอิทธิเจหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ผงปัดตลอดอาจารย์ภูเมือง ผงพุทธคุณหลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง ผงพุทธคุณครูบาคำหล้า จ.เชียงใหม่ ผงพุทธคุณอาจารย์มั่น ผงวิเศษหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกและผงของเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่หลวงพ่อได้ไปศึกษามา หลวงพ่อสาครได้นำผงเหล่านี้มาสร้างเป็นสมเด็จพุทธนิมิต ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถวัดหนองกรับหลังจากสร้างออกมาแล้วก็เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อทหารนาวิกโยธินนายหนึ่งได้เหยียบกับระเบิดจนตัวลอยละลิ่วเมื่อเพื่อนๆวิ่งไปดูทหารคนนั้น กลับไม่เป็นอะไรเลยในคอคล้องสมเด็จพุทธนิมิตองค์เดียวเท่านั้น จึงยกโขยงมาขอสมเด็จพุทธนิมิตจากหลวงพ่อสาครไปเป็นจำนวนมากหลังจากนั้นหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นอีกหลายพิมพ์ ซึ่งก็ล้วนมีประสบการณ์ทั้งสิ้นจนทำให้วัตถุมงคลเหล่านี้หมดไปจากวัดอย่าง และกลายเป็นที่มาของความหายากของวัตถุมงคลของหลวงพ่อสาครนั่นเอง
ติดต่อเรา | บริการจากเรา | สมาชิก | ||||||||||||||||||||||||||
|
|
สมัคสมาชิก | ||||||||||||||||||||||||||
ลืมรหัสผ่าน | ||||||||||||||||||||||||||||
วิธีชำระเงิน | ||||||||||||||||||||||||||||
แพ็คเก็จสมาชิก | ||||||||||||||||||||||||||||
สถิติเว็บพระ
|